การผ่าตัดปอดโดยวิธีส่องกล้องแผลเล็ก (Video-Assisted Thoracic Surgery, VATS) ใช้ในการผ่าตัด
รักษาโรคในบริเวณช่องทรวงอก การผ่าตัดแบบนี้ได้ผ่านการรับรองด้วยการวิจัยจากหลายสถาบันการแพทย์ว่าส่งผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่าหรือเทียบเท่าการรักษารูปแบบเดิมอย่างการผ่าตัดแบบเปิด มีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่น้อยกว่า เพราะผู้ป่วยจะปวดแผลน้อยกว่า นอนโรงพยาบาลในระยะเวลาที่สั้นกว่า และยังสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าอีกด้วย
เทคนิดการทำการผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้องในช่วงแรก ๆ จะมีแผลผ่าตัด 3-4 แผล แต่หลังจากศัลยแพทย์มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่มากขึ้นผนวกกับนวัดกรรมเครื่องมืออุปกรณ์การผ่าตัดที่พัฒนาดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถลดจำนวนแผลผ่าตัดลงเหลือแค่แผลเดียวเท่านั้น และมีขนาดเล็กเพียง 2-3 เซนดิเมตร การผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียวเรียกว่า Uniportal VATS
โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีส่องกล้องแผลเล็ก มีดังนี้
1.มะเร็งปอดระยะแรก (ระยะที่ 1 และ 2)
2.ก้อนเนื้อในปอด
3.ภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด
4.ภาวะดิดเชื้อในช่องเยื่อหุ้มปอด
5.เนื้องอกในช่องอกชนิดอื่นๆ เช่น เนื้องอกต่อมไทมัส
การผ่าตัดปอดโดยวิธีส่องกล้องแผลเล็กเหมาะกับการรักษาโรคปอดชนิดใดบ้าง
หากศัลยแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดส่องกลัองรวมถึงโรงพยาบาลมีอุปกรณ์การผ่าตัดที่ทันสมัย กว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรดปอดสามารถทำการรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ขั้นตอนการผ่าตัดปอดโดยวิธีส่องกล้องแผลเล็ก
ขั้นตอนการผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้องจะเริ่มด้วยการให้ผู้ป่วยดมยาสลบ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะทำการผ่าตัดระยะเวลาการผ่าตัดโดยรวมจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง และจะมีการต่อสายระบายเลือดจากช่องอกของผู้ป่วยหลังทำการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องนอนพักฟื้นสังเกดอาการที่ห้องผู้ป่วยวิกฤต ส่วนมากระยะเวลาจะไม่เกิน 1 วันแต่ทั้งนี้ระยะเวลาการสังเกตอาการจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของวิสัญญีแพทย์ หลังจากนั้นผู้ป่วยจะถูกเคลื่อนย้ายไปพักฟื้นต่ออีก 1-3 วัน ในห้องผู้ป่วยปกติ ระยะเวลาในการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะขึ้นอยู่กับระดับความยากง่ายของการผ่าดัด การพื้นตัวของผู้ป่วย หรือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
กาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้องมีอะไรบ้างและอันตรายหรือไม่
การผ่าตัดตัวยวิธีส่องกล้องเป็นการฝาตัดที่มีความปลอดภัยสูง โดยพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการฝาตัด
ระเภทนี้มีน้อยกว่าร้อยละ 1 และยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าร้อยละ 5 ของผู้ป่วยทีเข้ารับการผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้อง โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากอาการเจ็บปวดหลังการฝาตัด ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้คือ ลมรั่วหลังผ่าตัด ภาวะปอดแฟบ (Atelectasis) รวมถึงเกิดการติดเชื้อในปอด ภาวะแทรกซ้อนมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงอย่างเช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรดถุงลมโปงพอง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค การรักษาด้วยการผ่าตัดโดยวิชีส่องกล้องเป็นนวัดกรรมที่ถูกพัฒนามาช่วยลดอาการเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ดังนั้นการผ่าต้ดด้วยการส่องกล้องจึงปลอดภัยกว่าและมีประโยซน์ในการรักษาผู้ป่วยในกลุ่มความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมาก
หลังการผ่าตัดแพทย์จะทำการเฝ้าติดตามดูแลรักษาอาการปวดของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งให้ได้รับการทำกายภาพบำบัด เพื่อที่ผู้ป่วยจะลามารถช่วยเหลือดนเองและลดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ผู้ป่วยจะมีโอกาสกลับเป็นปกติหลังผ่าตัดหรือไม่
ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นปกติหลังผ่าตัดอย่างแน่นอนหากไม่พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดแผลเล็กน้อย รู้สึกชาหรือเสียวบริเวณหนัาอก เหนื่อยง่ายขึ้น ไอบ่อย มีเสมหะเล็กน้อย หรืออาจมีเลือดปนเป็นบางครั้งในปริมาณน้อย อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังจากผ่าตัด เป็นอาการข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายและจะหายไปได้เองในที่สุด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 สัปดาห์หลังจากทำการผ่าตัดผู้ป่วยจะสามารถกลับไปทำงานออกกำลังกายและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย
ศัลยแพทย์ทรวงอก
ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้องปอด และต่อมไทมัส