เลือกภาษา:
ความรู้เพื่อสุขภาพ

ผลข้างเคียงของวัคซีนลูกน้อย

พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล

เนื่องจากสุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพลูกน้อยเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆ อันอาจกระทบกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อย รวมถึงกระทบสภาพจิตใจของทั้งลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่เอง หนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพคือการรับวัคซีนของลูกน้อย ซึ่งจัดว่าเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ง่าย ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ลูกน้อยจะได้รับวัคซีนหลายชนิดตั้งแต่แรกคลอดจนโต วัคซีนจัดเป็นยาชนิดหนึ่ง  การรับวัคซีนย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือเกิดการแพ้ได้เช่นเดียวกับยาทั่วไป หากแต่ผลข้างเคียงนี้นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอันตรายและความรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

    การจัดทำข้อมูลนี้ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ปกครองลูกน้อยได้ทราบถึงผลข้างเคียงของวัคซีนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางเบื้องต้นในการดูแลลูกน้อยหลังจากได้รับวัคซีน

    ชนิดและผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากได้รับวัคซีนมี ดังนี้(เฉพาะวัคซีนที่ใช้บ่อย)
  • วัคซีนวัณโรค BCG ให้ตั้งแต่แรกเกิด  ฉีดชั้นใต้ผิวหนังที่ตำแหน่งหัวไหล่หรือสะโพก
-    ผลข้างเคียง หลังฉีดจะมีตุ่มนูน 6-8 มม. และหายไปในไม่ช้า จากนั้น 2 สัปดาห์ ตุ่มจะนูนแดงและแตกเป็นแผลมีหนอง อาจเป็นๆ หายๆ ถึง 6 สัปดาห์จึงหายไป และเหลือเป็นรอยแผลเล็กๆ แทน อาจพบต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงโต (ใต้รักแร้หรือขาหนีบ) หรือกระดูกอักเสบได้

    2.    วัคซีนตับอักเสบบี HBV (HepatitisB)  ให้ครั้งแรกตอนแรกเกิด จากนั้นให้ที่อายุ 1-2 เดือน และ 6 เดือน
         -    ผลข้างเคียง    พบน้อยมากอาจมีอาการเจ็บแสบขณะฉีด หรือไข้ต่ำๆ (อาจพบอาการแพ้รุนแรงได้
            แต่น้อยพบเพียง1ในล้านเท่านั้น)

    3.    วัคซีนโปลิโอ Polio เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด 
        -    ชนิดหยด  ผลข้างเคียง อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาตคล้ายโรคโปลิโอได้
                    (พบ 1.4-3.4 ต่อล้านโด๊ส)
        -    ชนิดฉีด     ซึ่งผสมรวมกับวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก ผลข้างเคียงตามวัคซีนป้องกัน
                    คอตีบไอกรนบาดทะยัก

    4.    วัคซีนคอตีบไอกรนบาดทะยัก DTP (Diphtheria, Pertussis, Tetanus) เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด
        -    ชนิดเต็มเซลล์ (DTPw) และชนิดไร้เซลล์ (DTPa) 
*    ผลข้างเคียง ชนิดเต็มเซลล์ จะพบมากกว่า ชนิดไร้เซลล์  ทั้งเรื่องไข้ ปวดบวม ฝีปราศจากเชื้อบริเวณที่ฉีด และอาเจียน
            *    ผลข้างเคียงที่รุนแรงของชนิดเต็มเซลล์ คือ ชักภายใน 3 วัน ร้องกวน                ไม่หยุดมากกว่า 
3 ชั่วโมง ภายใน 2 วัน  ตัวอ่อนปวกเปียก ภายใน 2 วัน ไข้มากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส และแพ้วัคซีนทั้งแบบรุนแรงเฉียบบพลัน หรือแพ้ชนิดบวมแดงเฉพาะที่อย่างมาก ควรเปลี่ยนมาใช้ชนิดไร้เซลล์แทน

    5.    วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ Hib (Haemophilus influenzae B) มักผสมรวมกับวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก 
        -    ผลข้างเคียงตามวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก หากฉีดตัวเดียวอาจพบอาการไข้ต่ำๆ 
            ปวดบวมแดง อาการมักไม่รุนแรงและไม่เกิน 24 ชั่วโมง

    6.    วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม MMR (Measles, Mumps, Rubella) เริ่มฉีดเข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือน เข็มกระตุ้นนั้นอาจมีเปลี่ยนตามอุบัติการณ์ของโรคในประเทศไทย ในปีพ.ศ.2557 ทางอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้ปรับอายุที่กระตุ้นเป็น 2ปีครึ่ง ถ้าฉีดเข็มแรกที่อายุ 9 เดือน หากเข็มแรกให้อายุ 12 เดือนก็กระตุ้นที่อายุ 4-6 ปี 
        -    ผลข้างเคียง พบน้อย อาจพบไข้ต่ำๆ ผื่นแดง ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำลายโต พบใน 5-12 วัน 
            ชักจากไข้สูง อาการทางสมอง (สมองอักเสบ) ปวดตามข้อ (โดยเฉพาะในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่) 
แพ้ยาแบบเฉียบพลัน และอาจพบภาวะเกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติชั่วคราวทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติได้

    7.    วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี JEV (Japanese encephalitis virus) มี 2 ชนิด คือ แบบเชื้อตาย ซึ่งเพาะเลี้ยงใน  สมองหนู ฉีด 3 ครั้งช่วงอายุ 1-2ปี ทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแนะนำให้กระตุ้นอีก 1 เข็มที่อายุ 4-5 ปี อีกชนิด คือ แบบเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ให้เข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือนขึ้นไป และกระตุ้นหลังจากนั้นอีก 3-12 เดือน 
        -    ผลข้างเคียง ไข้ (ร้อยละ10) ปวด บวมแดง ขณะฉีด (ร้อยละ20) 

    8.    วัคซีนตับอักเสบเอ HAV (HepatitisA) ฉีดอายุ 1 -2 ปีขึ้นไป 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน
        -    ผลข้างเคียง ปวด บวม เจ็บแสบ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร 1-2 วันแรก

    9.    วัคซีนอีสุกอีใส Varicella ฉีดอายุ 1 ปีขึ้นไป กระตุ้นเข็ม 2 ที่อายุ 4-6 ปี กรณีที่มีการระบาดอาจฉีดเข็ม 2 ก่อนได้โดยอายุน้อยกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 3 เดือน ถ้าอายุมากกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน 
        -    ผลข้างเคียง บวม เจ็บแสบ ไข้ต่ำๆ อาจพบผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสเล็กน้อย ภายใน 5-26 วัน

    10.    วัคซีนไข้หวัดใหญ่ Influenza เริ่มฉีดที่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เฉพาะอายุ ต่ำกว่า     9 ปี ในปีแรกให้ 2 เข็มในห่างกัน1เดือน 
-    ผลข้างเคียง ไข้ พบน้อยในเด็กต่ำกว่า 13 ปี พบภายใน  6-24 ชั่วโมง อาจพบอาการแพ้
    เฉียบพลันได้ในคนที่มีการแพ้ไก่หรือไข่แบบรุนแรง และพบอาการปลายประสาทอักเสบเฉียบพลัน 
    (Guillain-Barre syndrome) ได้ 1 ในล้าน

    11.    วัคซีนโรต้า Rotavirus ใช้หยอดทางปาก เริ่มที่อายุ 2 เดือน 
        -    ผลข้างเคียง ไข้ เบื่ออาหาร อาเจียน งอแง ถ่ายเหลว
    12.    วัคซีนนิวโมคอคคัส Pneumococcus ฉีดที่อายุ 2 เดือนขึ้นไป 
        -    ผลข้างเคียง  ไข้ ปวด บวม แดง 

การปฏิบัติตัวสำหรับการรับวัคซีน
    1.    ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง
    2.    ไม่ควรรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูง หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน การเป็นหวัด ท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับ
        วัคซีนได้
    3.    หลังรับวัคซีนควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย10นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยาแบบเฉียบพลัน เช่น ผื่นขึ้น 
        หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หมดสติเป็นต้น
    4.    หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะปวดเมื่อย สามารถทานยาลดไข้แก้ปวดพาราเซ็ตตามอลได้ ถ้าไม่แพ้ยา
    5.    หากมีอาการปวด บวม ภายใน 24ชั่วโมงแรก ให้ใช้ผ้าเย็นประคบ เพื่อลดเลือดไหลเวียนมาบริเวณนั้น อาการบวมจะลดลง
    6.    หากมีอาการบวมแดง ต้องประเมินว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ถ้าเป็นฝีควรปฏิบัติ ดังนี้
        *    ฝีจากBCG ทำความสะอาดด้วย 70%alcohol หรือน้ำสะอาดที่ต้มสุก
        *    ฝีต่อมน้ำเหลืองจาก BCG ควรพบแพทย์
        *    ฝีจากคอตีบไอกรนบาดทะยัก มักเป็นฝีไม่มีเชื้อ ช่วงบวมแดงอาจประคบเย็นหากไม่ดีขึ้นหรือ
            ขนาดใหญ่ขึ้นให้พบแพทย์
    7.    หลังรับวัคซีนโดยเฉพาะเด็กโตอาจมีอาการหน้ามืดเป็นลม ให้นั่งนิ่งๆ อยู่กับที่หรือนอนราบอย่างน้อย 
        15 นาทีหรือจนอาการดีขึ้น
    8.    หากไม่สามารถมาตามนัดที่ฉีดได้ สามารถเลื่อนออกได้ (แนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์)
    9.    หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยา หรือมีอาการแพ้ไข่หรือไก่แบบรุนแรง กรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือ
        เจ้าหน้าที่ทราบด้วย
      
    ข้อมูลทั้งผลข้างเคียงและการปฏิบัติตัวหลังรับวัคซีนนี้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกน้อยในการมารับวัคซีนเพื่อส่งเสริมสุขภาพแก่ลูกน้อยของท่าน

พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล  เรียบเรียง
(ข้อมูลจากคู่มือวัคซีน ของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ปี 2013-2014, หนังสือการประชุมใหญ่ประจำปี 2557 ของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และข้อมูล BCGจาก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย